การใช้ฟังก์ชัน Excel

การใช้สูตรคำนวณ

  Microsoft Excel 2007 เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการคำนวณในด้านต่างๆ อย่างสูง เช่น เกี่ยวกับการเงิน ตรรกกะ วัน เวลา คณิตศาสตร์หรือสถิติ เป็นต้น รวมถึงยังมีฟังก์ชั่นมาตรฐานที่ใช้งานทั่วไปจนถึงฟังก์ชั่นการคำนวณ
ที่ซับซ้อนเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการใช้งานอีกด้วย
 การคำนวณโดยใช้การพิมพ์สูตรทางคณิตศาสตร์
การคำนวณโดยการพิมพ์สมการทางคณิตศาสตร์นั้น ต้องมีการเรียนรู้ถึงหลักการและการนำไปใช้ ดังนี้
หลักการพิมพ์สูตรทางคณิตศาสตร์ในเซลล์
ในการพิมพ์สูตรสมการทางคณิตศาสตร์แบบบรรทัดเดียวนั้น มีหลักการดังต่อไปนี้
เครื่องหมายสถานะของสูตร

ให้พิมพ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) หรือคลิกเครื่องหมายเท่ากับบนแถบสูตรจะมีแผ่นกรอกข้อมูลให้มา โดยโปรแกรม Microsoft Excel จะรู้ทันทีว่ากำลังทำงานอยู่ในสถานะสูตร

ตัวเลขและการอ้างอิงเซลล์
เมื่อพิมพ์ = แล้วก็เป็นการพิมพ์สมการทางคณิตศาสตร์บรรทัดเดียวซึ่งจะใช้ตัวเลขหรือเซลล์มาพิมพ์ก็ได้ ถ้าเป็นตัวเลข Excel จะถือว่าเป็นค่าคงที่แต่ถ้าเป็นเซลล์จะขึ้นอยู่กับการอ้างอิงเซลล์โดยการพิมพ์ชื่อเซลล์ลงไปโดยตรง หรือใช้เมาส์คลิกเลือกเซลล์ที่อ้างอิงนั้นก็ได้ เช่น =1/2 หรือ =6*B3 หรือ =A4+B4 เป็นต้น
เครื่องหมายการคำนวณและเปรียบเทียบ
เป็นการคำนวณโดยใช้เครื่องหมายบวก (+) ลบ (-) คูณ (*) หาร (/) เลขยกกำลัง (^) เปอร์เซ็นต์ (%) และใช้เครื่องหมายวงเล็บ () แต่เราไม่สามารถที่จะใส่สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน เช่น 

 (Square root) ลงในสูตรของ Excel ได้ดังนั้นจึงต้องมีการนำฟังก์ชันมาช่วยทำงาน 


ตัวอย่าง7 จะเขียนเป็น SQRT (7) แทน เป็นต้น ซึ่งการคำนวณจากเครื่องหมายคำนวณนี้ จะมีลำดับงานการคำนวณก่อนหลัง ดังตาราง
     ลำดับงานการคำนวณสูตรในโปรแกรม Microsoft Excel 2007





เครื่องหมายในการเปรียบเทียบในการคำนวณสูตรของโปรแกรม Microsoft Excel 2007

การอ้างอิงตำแหน่งเซลล์
โดยปกติการคำวณหรือการใช้ฟังก์ชั่นมีความจำเป็นต้องอ้างอิงตำแหน่งของเซลล์ด้วย เช่น C6=C4-C5 ซึ่งการอ้างอิงเซลล์ของ Microsoft Excel 2007 มีด้วยกัน 3 วิธีคือ
v Relative Reference :เป็นการอ้างอิงตำแหน่งเซลล์แบบสัมพัทธ์คือเซลล์ที่ถูกคัดลอกหรือย้ายตำแหน่งของเซลล์ปลายทางจะเปลี่ยนตำแหน่งโดยอัตโนมัติ เช่น A2=B2+C2 เมื่อคัดลอกสูตรจาก A2 ไปที่ A4 สูตรที่ A4 จะเป็นดังนี้ A4=B4+C4
v Absolute Reference :เป็นการอ้างอิงเซลล์แบบสัมบูรณ์คือเซลล์ที่ถูกคัดลอกหรือย้ายตำแหน่งของเซลล์ปลายทางจะคงตำแหน่งเซลล์ต้นทางเดิมไว้ เช่น A2=$B$2+$C$2 เมื่อคัดลอกสูตรจาก A2 ไปที่ A4 สูตรที่ A4 จะเป็นดังนี้ A4= $B$2+$C$2 เช่นเดิม ซึ่งหากเราต้องการให้แถวหรือคอลัมน์คงที่ตำแหน่งเดิมไว้เพียงใส่เครื่องหมาย ไว้หน้าแถวหรือคอลัมน์นั้นๆ
v Mixed Reference :เป็นการอ้างอิงแบบตำแหน่งเซลล์ผสมทั้ง Relative Reference และ Absolute Reference เช่นเซลล์ที่ถูกคัดลอก หรือย้ายตำแหน่งของเซลล์ปลายทางจะเปลี่ยนตำแหน่งโดยอัตโนมัติสำหรับการอ้างอิงแบบ Relative Reference และจะคงตำแหน่งเซลล์ต้นทางเดิมไว้ Absolute Reference เช่น A2=B2+$C$2 เมื่อคัดลอกสูตรจาก A2 ไปที่ A4 สูตรที่ A4 จะเป็นดังนี้ A4= B4+$C$2 เป็นต้น
หลักการพิมพ์สูตรสำเร็จหรือฟังก์ชันในเซลล์
ในการพิมพ์สูตรสำเร็จหรือฟังก์ชันแบบบรรทัดเดียวนั้นมีหลักการดังต่อไปนี้
เครื่องหมายสถานะของสูตร
ให้พิมพ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) หรือคลิกเครื่องหมายเท่ากับบนแถบสูตรจะมีแผ่นกรอกข้อมูลให้มาโดยโปรแกรม Microsoft Excel จะรู้ทันทีว่าขณะนี้กำลังทำงานอยู่ในสถานะสูตร
ชื่อสูตรสำเร็จหรือฟังก์ชัน
ให้พิมพ์ชื่อสูตรสำเร็จหรือฟังก์ชันที่รู้จักต่อจากเครื่องหมายเท่ากับ (=) ได้แก่ SUM AVERAGE COUNT MAX MIN ฯลฯ
การอ้างอิงเซลล์
หลังจากพิมพ์ชื่อสูตรสำเร็จหรือฟังก์ชันจะเป็นวงเล็บที่เป็นข้อมูลการอ้างอิงเซลล์โดยใช้เครื่องหมายโคลอน (:) คั่นระหว่างเซลล์เป็นข้อมูลต่อเนื่องจากเซลล์หนึ่งถึงอีกเซลล์หนึ่งและใช้เครื่องหมายจุลภาคหรือคอมม่า (,) เป็นข้อมูลเว้นช่วงระยะไปอีกเซลล์หนึ่งหรืออีกกลุ่มเซลล์หนึ่งโดยการพิมพ์ชื่อเซลล์ลงไปโดยตรงหรือใช้เมาส์คลิกเลือกเซลล์ที่อ้างอิงนั้นก็ได้ ถ้าเป็นกลุ่มเซลล์การอ้างอิงเซลล์ติดต่อกันให้ใช้เมาส์ลากแต่ถ้าเป็นเซลล์หรือกลุ่มเซลล์เว้นช่วงระยะกันให้ใช้ Ctrl + เมาส์คลิกหรือลากตามแต่กรณี เช่น =SUM (A1:A4, A6) เป็นต้น

แต่ถ้าเป็นการคลิก = ที่แถบสูตรแล้วจะมีแผ่นข้อมูลมาให้กรอกหรือใช้เมาส์คลิกเลือกเซลล์ก็ได้ในช่องจำนวนชุด
ที่และ2 (ถ้ามี) แผ่นนี้สามารถย้ายได้ในกรณีที่แผ่นบังข้อมูลดิบอยู่ โดยนำเมาส์ไปลากย้ายออกมาหรือสามารถที่จะย่อแผ่นให้เหลือแต่ช่องที่จะกรอกข้อมูลก็ได้โดยให้คลิกที่รูป
ท้ายช่องนั้นและคลิกที่รูปท้ายช่องนั้นอีกครั้ง เพื่อเปิดให้แบบเต็มแผ่นขึ้นมาใหม่

การคำนวณโดยใช้สูตร
การคำนวณโดยการใช้สูตรสำเร็จจากการแทรกฟังก์ชันนี้เป็นที่รวบรวมสูตรหรือฟังก์ชันประเภทต่าง ๆ  ได้แก่ การเงินวันและเวลา คณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ ทางสถิติ การค้นหาและการอ้างอิงฐานข้อมูล ข้อความ ตรรกศาสตร์ ข้อมูล เป็นต้น ดังนั้นการใช้ประโยชน์จากการแทรกฟังก์ชันของโปรแกรม Microsoft Excel นั้นมีอยู่อย่างมากแต่สิ่งสำคัญยิ่งในการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือนี้ก็คือความรู้และความเข้าใจในการใช้สูตรที่ต้องได้รับ การศึกษามาในแต่ละสาขาวิชาซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำไปใช้กรอกข้อมูล หรือสร้างตารางคำนวณได้ถูกต้องและตรงกับการนำไปใช้ในสูตรหรือฟังก์ชันนั้นโดยจะกล่าวถึงหลักการในการใช้สูตรหรือฟังก์ชัน ดังต่อไปนี้
การใส่สูตรคำนวณปกติ
   1.  เลือกเซลล์ที่ต้องการแสดงผลลัพธ์ จากตัวอย่างนี้ตำแหน่งเซลล์อยู่ที่ D4

  


2. พิมพ์เครื่องหมาย = แล้วตามด้วยตำแหน่งเซลล์ เช่น =D2*D3 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter
3. ที่เซลล์ D4 จะแสดงผลลัพธ์ และที่ Formula bar จะแสดงสูตรคานวณที่กำหนดไว้ การคำนวณหาผลรวม
  
  ถ้าต้องการหาผลรวมของตัวเลขหลายๆ ตำแหน่งให้คุณใช้ฟังก์ชันของการหาผลรวมเข้ามาช่วยมีขั้นตอนดังนี้
1. เลือกเซลล์ที่ต้องการแสดงผลลัพธ์
2. ที่แท็บ Home คลิกปุ่ม Sumบนทูลบาร์
3. จะปรากฏสูตรคานวณ =SUM (B4:G4) ให้ดูช่วงข้อมูลตัวเลขที่จะคำนวณว่าถูกต้องหรือไม่สังเกตจาก
เส้นประวิ่งรอบๆ ข้อมูลถ้าถูกต้องแล้วกดปุ่ม Enter ถ้าไม่ถูกต้อง drag คลุมช่วงข้อมูลใหม่แล้วกดปุ่ม Enter
เปิดเลือกสูตรที่ต้องการใช้
ให้คลิกที่หัวลูกศรดำ ๆ หลังชื่อสูตรที่เกิดขึ้นจะเป็นการเปิดรายการสูตรที่ถูกใช้เมื่อเร็ว ๆ นี้ 10 สูตร
และฟังก์ชันเพิ่มเติม... ให้คลิกเลือกสูตรที่ต้องการจะมีแผ่นกรอกข้อมูลที่ได้นำเซลล์ข้อมูลเข้าไปแล้ว หากต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลก็ให้ลบข้อมูลเดิมและคลิกเลือกเซลล์ใหม่ที่ต้องการแล้วคลิกปุ่มตกลง

  แท็บสูตร
แท็บ Formula จะแสดงประเภทของสูตรคำนวณให้เลือกใช้ในที่นี้คลิกปุ่มลูกศรลงของ AutoSum
จะปรากฏสูตรคำนวณที่ใช้งานบ่อยๆ ให้เลือก
Average                            สูตรการหาค่าเฉลี่ย
Count Numbers                    สูตรการนับจำนวนข้อมูล
Max                                สูตรการหาค่าสูงสุด
Min                                 สูตรการหาค่าต่าสุด
More Functions                    สูตรอื่นๆ
การคัดลอกสูตร
การคำนวณในตำแหน่งเซลล์อื่น ๆ แต่มีการใช้สูตรเดียวกันจำเป็นที่ต้องคัดลอกสูตรที่ทำแล้วนำไปใช้
แต่การคัดลอกอาจมีปัญหาบางประการเกิดขึ้นได้ ดังนั้นควรต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การคัดลอกสูตร
การอ้างอิงเซลล์ ผลลัพธ์ข้อความแปลก ๆ ดังต่อไปนี้
การคัดลอกสูตรและการอ้างอิงเซลล์
เมื่อเราคำนวณโดยการพิมพ์สูตรหรือการใช้ฟังก์ชันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้คัดลอกไปวางไว้ใน
เซลล์อื่น ๆ ได้โดยใช้การคัดลอกและวางจากเมนูหรือเครื่องมือตามที่ได้อธิบายไปแล้วหรือ
ให้ใช้ตัวเติมอัตโนมัติลากไป ในกรณีที่ข้อมูลอยู่ในแนวแถวและคอลัมน์เดียวกัน ดังนี้
การคัดลอกโดยใช้ตัวเติมอัตโนมัติในกรณีที่ข้อมูลในตารางที่ต้องการคัดลอกสูตรอยู่ในแนวแถวและคอลัมน์เดียวกันก็สามารถใช้ตัวเติมอัตโนมัติลากไปได้ตลอดซึ่งเซลล์ที่ถูกวางในลำดับต่อ ๆ ไปนั้นจะมีการอ้างอิงในสูตรเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยตามลักษณะของแถวและคอลัมน์ เช่น การคัดลอกสูตรหาเงินภาษีของแต่ละคนจากตำแหน่งเซลล์ F3 ใช้สูตร =10%*E3 เมื่อคัดลอกโดยลากตัวเติมอัตโนมัติลงมาตามแนวคอลัมน์ของ ในแต่ละแถวการอ้างอิงเซลล์ในสูตรจะเปลี่ยนไปตามแถวนั้น ๆคือที่ F4 จะเป็นสูตร =10%*E4 โดยที่คอลัมน์ไม่ได้ถูกเปลี่ยนเพราะลากลงมาในคอลัมน์เดียวกันหากแถวใดไม่มีข้อมูลเลยก็จะได้ผลลัพธ์เป็น หรือ –
การคัดลอกโดยใช้เมนูเครื่องมือและเมาส์ลาก เป็นการคัดลอกไปใช้ในตำแหน่งเซลล์ที่ไม่อยู่ในแถวและคอลัมน์เดียวกันหรืออยู่แต่เป็นการอ้างอิงไม่เหมือนกันจากตัวอย่างเช่นการหาผลรวมที่เซลล์ C6 ใช้สูตรผลรวม =SUM (D6,E6) แล้วคัดลอกมาวางที่ตำแหน่ง เซลล์ G6 จะได้สูตรผลรวม =SUM (H6,I6) ซึ่งเป็นการอ้างอิงเลื่อนลำดับคอลัมน์ไปตามต้นฉบับที่มี เซลล์ แต่ในข้อมูลตำแหน่งว่างมีข้อมูลถึง เซลล์ จึงได้สูตรและผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง ต้องแก้ไขสูตรใหม่ให้เป็น =SUM (H6:J6) ดังนั้นการคัดลอกมาวางในตำแหน่งอื่น ๆ ต้องระวังว่าเซลล์ต้นฉบับกับเซลล์ปลายทางนั้นมีความสอดคล้องเหมือนกันหรือไม่ถ้าไม่เหมือนกันต้องแก้ไขการอ้างอิงให้ถูกต้องด้วย

ข้อความแสดงความผิดพลาดจากสูตรคำนวณ
การที่เราใช้งานสูตรคำนวณนั้นบางครั้งอาจเกิดการผิดพลาดได้ซึ่ง Microsoft Excel 2007 มีข้อความแสดงความผิดพลาดให้เราทราบดังต่อไปนี้

การใช้อินเทอร์เน็ตกับแผนที่Nostra Map Thailand


NOSTRA Map Thailand

NOSTRA Map Thailand เป็นแผนที่ประเทศไทยที่มีข้อมูลแผนที่ครอบคลุมทั้งประเทศไทย สามารถค้นหาสถานที่ใกล้เคียง หรือค้นหาเส้นทางการเดินทาง เพิ่มและเก็บ ตำแหน่งสถานที่ หรือ ตำแหน่งของเรา” นอกจากนี้เรายังสามารถแชร์ตำแหน่งให้เพื่อนๆได้อีกด้วย ความสามารถของ NOSTRA Map Thailand ยังไม่หมดแค่นี้ แผนที่ตัวนี้เป็นแผนที่ทันสมัยสามารถใช้ได้ทั้ง 2 ภาษา ใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และเพื่อนๆสามารถค้นหาร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ที่ช้อปปิ้ง อีกทั้งยังดูเรื่องสภาพจราจรได้ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติดหรือมีเหตุการณ์อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการจราจรต่างๆ และที่สำคัญยังสามารถโหลดได้ฟรีอีกด้วย หากเพื่อนๆท่านใดสนใจ พิมพ์ “NOSTRA Map Thailand” แล้วโหลดได้ทางApp store สำหรับ iPhone และ iPad หรือระบบ Android ก็สามารถใช้ได้ แผนที่ออนไลน์ตัวนี้นับว่าเป็นแผนที่ ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยการเชื่อมต่อกับ Social Network ต่างๆ และอีกอย่างก็ง่ายต่อการใช้งานอีกด้วย 

ในส่วนของการใช้งานแอพฯ เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาก็จะเจอกับรูปแผนที่ประเทศไทย และแสดงตำแหน่งที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน ส่วนเมนูการใช้งานต่างๆ มีดังนี้


รายละเอียดการใช้งานของแต่ละเมนู มีดังนี้



สามารถสอบถามเส้นทางการเดินทางได้ง่ายๆ เพียงกดแล้วระบุสถานที่ต้นทางกับปลายทาง ซึ่งคุณสามารถระบุเป็นตำแหน่งปัจจุบัน เลือกจากบนแผนที่ หรือค้นหาเองก็ได้
  



จากนั้น แอพฯ ก็จะแนะนำเส้นทางโดยจะบอกวิธีการเดินทาง ระยะทางและระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง นอกจากนั้นยังสามารถเลือกวิธีการเดินทางได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ และเดิน ซึ่งวิธีการเดินทางระยะทางและระยะเวลาจะถูกคำนวณใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวิธีการเดินทาง


ลบจุดที่กำหนดไว้บนแผนที่

เพียงกด แอพฯ ก็จะทำการลบจุดที่ปรากฎอยู่บนแผนที่ออกไป

 กลับมายังตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน


เพียงกด ไม่ว่าจะกำลังดูจุดไหนอยู่บนแผนที่ ก็จะกลับมายังจุดที่คุณอยู่อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องเปิดใช้งาน Location services บนโทรศัพท์ของคุณเสียก่อน


เมนูหลัก

กดปุ่มก็จะพบกับเมนูการใช้งานต่างๆมากมายดังนี้


เพิ่มตำแหน่ง


สามารถเพิ่มและเก็บตำแหน่งที่สนใจได้ง่ายๆไม่ว่า จะเป็นตำแหน่งปัจจุบัน เลือกจากแผนที่ และค้นหาสถานที่ด้วยตนเอง เพียง กดปุ่ม แล้วเลือกเพิ่มตำแหน่ง จากนั้นตำแหน่งที่เพิ่มจะเข้าไปอยู่ในเมนู ตำแหน่งของฉัน

แชร์ตำแหน่ง

สามารถแชร์ตำแหน่งที่สนใจได้ง่ายๆไม่ว่า จะเป็นตำแหน่งปัจจุบัน เลือกจากแผนที่ และค้นหาสถานที่ด้วยตนเอง ได้หลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter e-mail หรือ SMS เพียง กดปุ่ม แล้วเลือกแชร์ตำแหน่ง




 วัดระยะ

สามารถวัดระยะห่างระหว่างสถานที่ที่สนใจตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไปได้ง่ายๆเพียง กดปุ่ม เลือกวัดระยะ กดปุ่มรูปจากนั้นสัมผัสจุดต้นทางและปลายทางบนหน้าจอ(ถ้ามีจุดที่สนใจมากกว่า 2 แอพฯ จะแสดงเป็นระยะห่างรวมทั้งหมด)


รูปแบบแผนที่

NOSTRA Map Thailand มีแผนที่หลายรูปแบบเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งแผนที่ถนน แผนที่ดาวเทียม และแผนที่เฉดสีเทา โดยสามารถเปลี่ยนรูปแบบแผนที่ได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่ม Nแล้วเลือกรูปแบบแผนที่ที่ต้องการ

ชั้นข้อมูล

สามารถเลือกให้ NOSTRA Map แสดงหรือซ่อน ข้อมูลพิเศษที่ผู้ใช้ต้องการได้ คือ ตำแหน่งปัจจุบัน NOSTAR Traffic (ข้อมูลจราจร) และ NOSTRA Guide (ข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว หรือร้านอาหาร) เพียงกด แล้วเลือกซ่อน/แสดงเมนูที่ต้องการ

การตั้งค่า


ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนภาษา ได้ทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ และมีช่องทางติดต่อกับทีมพัฒนา NOSTRA เพื่อให้คำแนะนำต่างๆ รวมถึงอ่านข้อกำหนดในการใช้บริการได้ที่เมนูนี้ โดยผู้ใช้สามารถติดต่อกับ NOSTRA ได้ทั้งทาง Facebook Twitter และ E-mail

ข้อดี ข้อด้อย และบทสรุป

ข้อดี

เนื่องจากผู้พัฒนา Globetech มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดทำแผนที่สำหรับ GPS นำทางในประเทศไทย ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นแผนที่พื้นฐาน GPS ที่ดีที่สุด นี่ทำให้เรามั่นใจได้ว่าข้อมูลแผนที่มีความละเอียด และทันสมัย  ไม่ได้หมายถึงเฉพาะรายละเอียดแผนที่ แต่รวมไปถึงจุดน่าสนใจในฐานข้อมูล ที่เรียกว่า POI (Point Of Interest) ด้วยการออกแบบ UI เป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจ การใช้โทนสีเหลือง-ส้มและดำเป็นหลักทำให้แอพดูเด่นทันสมัย ผู้ใช้เข้าถึงฟังก์ชันหลักในอย่างสะดวกต่อเนื่อง แม้ในขณะที่กำลังสนใจอยู่กับตำแหน่งเฉพาะบนแผนที่
ความสามารถในการแบ่งปันแผนที่ เป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์อย่างมาก เพิ่มคุณค่าให้กับแอพ ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะแบ่งปันแผนที่โดยการเลือกจาก ตำแหน่งปัจจุบัน แตะบนแผนที่ หรือหาตำแหน่งใหม่ ก็ได้ เมื่อกำหนดตำแหน่งแผนที่ที่จะแบ่งปัน ผู้ใช้สามารถเลือกว่าจะแบ่งปันไปอย่างไรได้หลากหลายตามแอพที่ติดตั้งอยู่บน Device ของผู้ใช้

 ข้อด้อย

จุดด้อยสำคัญที่สุดที่ปรากฏให้เห็นระหว่างการทดสอบ ก็คือ เรื่องการ Search แต่ไม่ใช่เพราะว่ามันมีรายละเอียดแผนที่น้อย หรือมี POI น้อย ซึ่งอันที่จริงเรื่องของรายละเอียดแผนที่และ POI เป็นข้อดีดังที่กล่าวไปแล้ว ที่ว่าการ Search กลายเป็นข้อด้อย  ว่ามาจากประเด็นของอัลกอริธึ่มและกระบวนการเบื้องหลังที่ใช้ในการประมวลผล ผู้ใช้จะพบว่าการค้นหาสถานที่จากคำคุ้น ๆ เป็นเรื่องยาก เพราะถ้าคุณสะกดไม่ตรงคำที่มีในฐานข้อมูล แอพจะไม่แสดงรายการผลการค้นหาขึ้นมาให้ เป็นปัญหาเดียวกับที่จะเจอเมื่อคุณใช้เครื่อง GPS ติดรถยนต์นั่นแหละครับ ต้องอย่าลืมถ้าเราไม่รู้จักคุ้นเคยการสืบค้นด้วย Google ประเด็นนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ Google ทำให้เรื่องของการ Search กลายเป็นมาตรฐานในตลาด ดังนั้นแอพใด ๆ ที่ทำได้ไม่ใกล้เคียงจะดูด้อยเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่า NOSTRA Map จะตกหลุมด้อยนี่ซะด้วย … ถ้าใช้แค่เดาคำหาไม่ได้ ความละเอียดที่มีในฐานข้อมูลจะมีคุณค่าน้อยลง เพราะเหตุที่เข้าถึงได้ยากนั่นเอง
 เนื่องจากการ Search เป็นส่วนหนึ่งในแทบทุกฟังก์ชันหลักของแอพ การที่มันเป็นข้อด้อยทำให้ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องดูด้อยตามไปด้วย เช่น ถ้าผู้ใช้ทำการค้นหาเส้นทาง แล้วเลือกกำหนดจุดเริ่มต้น หรือปลายทาง ด้วยการ Search จะพบว่ามันยุ่งยากมากเลยทีเดียว เป็นต้น

บทสรุป

แอพแผนที่ใด ๆ ก็ตามที่ปล่อยออกมา คงยากที่จะไม่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ Google Map ยักษ์ใหญ่ของวงการ  ที่กล่าวเช่นนี้เพราะ Google Map ได้สร้างมาตรฐานของแอพประเภทแผนที่เอาไว้หลากหลายด้าน ถ้าจะพิจารณาว่า NOSTRA Map เป็นแอพที่เหมาะจะให้เป็นแอพสามัญประจำ Mobility Device ของคุณหรือไม่ การเปรียบเทียบกับ Google Map จะทำให้เห็นชัดขึ้น   ตัดประเด็นเรื่อง Navigation ซึ่ง NOSTRA Map ไม่มีออกไป เปรียบเทียบเฉพาะเรื่องการใช้ข้อมูลแผนที่จริง ๆ เห็นได้ชัดว่า มีแต่เรื่องของการออกแบบ UI และความละเอียด ความทันสมัยของข้อมูลเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าเทียบกับ Google Map แล้วพอจะคิดให้เป็นทางเลือกได้ แต่ทว่าฟังก์ชันหรือคุณสมบัติอย่างอื่นทั้งหมดนอกจากนั้น ยังด้อยกว่ามาก โดยเฉพาะจุดอ่อนเรื่องการ Search ที่ดูจะมีผลต่อการใช้งานมากที่สุด ยิ่งทำให้แอพห่างชั้นกว่ากันขึ้นไปอีก จึงไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักที่จะคิดว่า NOSTRA Map อยู่ในฐานะเป็นทางเลือกได้ เช่นกัน









สนใจติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ NOSTRA Map  Thailand เข้าไปเยี่ยมชมได้ที่  www.facebook.com/nostramap 
      www. map.nostramap.com









 แหล่งข้อมูลอ้างอิง


เครือข่ายสังคมออนไลน์

เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)

1. ความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)
เครือข่ายสังคมออนไลน์ หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีการเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างเครือข่ายในการตอบสนองความต้องการทางสังคมที่มุ่งเน้นในการสร้างและสะท้อนให้เห็นถึงเครือข่าย หรือความสัมพันธ์ทางสังคม ในกลุ่มคนที่มีความสนใจหรือมีกิจกรรมร่วมกัน บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จะให้บริการผ่านหน้าเว็บ และให้มีการตอบโต้กันระหว่างผู้ใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต


2.ความเป็นมาของเครือข่ายสังคมออนไลน์
การเกิดขึ้นและเติบโตของเครือข่ายสังคมออนไลน์นี้มาจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตจากเว็บ 1.0 (เว็บเนื้อหา) มาสู่เว็บ 2.0 (เว็บเชิงสังคม) ซึ่งจุดเด่นของเว็บ 2.0 คือ การที่ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตได้เอง โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นทีมงานหรือผู้ดูแลเว็บไซต์ ซึ่งเรียกว่า User Generate Content ข้อดีของการที่ผู้ใช้เข้ามาสร้างเนื้อหาได้เอง ทำให้มีการผลิตเนื้อหาเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีความหลากหลายของมุมมองความคิด เพราะจากเดิมผู้ดูแลจะเป็นคนคิดและหาเนื้อหามาลงแต่เพียงกลุ่มเดียว

    ปัจจุบันมีการสร้างชุมชนใหม่บนอินเทอร์เน็ต  เป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสาร  ทำกิจกรรมต่างๆ  ทั้งเพื่อการศึกษา  ธุรกิจ  และความบันเทิง  มีผลต่อการดำรงชีวิตของคนในสังคมเครือข่ายทั้งเป็นประโยชน์และเป็นข้อเสีย

องค์ประกอบของเครือข่ายสังคมออนไลน์


  1. การสื่อสาร
  2. นิยามคำจำกัดความ
  3. เครือข่าย
  4.การแบ่งปัน

องค์ประกอบของ  Social  Midia  มีดังนี้

       1. Identity  Network  (การเผยแพร่ตัวตน)  สังคมครือข่ายประเภทนี้ใช้สำหรับให้ผู้ เข้าใช้งาน ได้มี       พื้นที่ในการสร้างตัวตนขึ้นมาบน Website และสามารถที่จะเผยแพร่เรื่องราวของตนผ่านทาง                 อินเทอร์เน็ต โดยประเภทของการเผยแพร่อาจจะเป็นรูปภาพ วีดีโอ การเขียนข้อความลงใน BLOG        ซึ่งในสังคมประเภทนี้ สามารถที่จะสร้างกลุ่มเพื่อนขึ้นมาได้อย่างมากมาย ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งผู้ให้              บริการสังคมเครือข่ายประเภทนี้ เช่น  Facebook,  Hi5  เป็นต้น
     
   
     2. Creative  Network  (การเผยแพร่ผลงาน) สังคมเครือข่ายประเภทนี้ เป็นสังคมที่คนในสังคมต้องแสดงออก และนำเสนอผลงานของตัวเอง ได้จากทั่วทุกมุมโลก จึงมี Website ที่ให้บริการพื้นที่เสมือนเป็น Gallery ที่ใช้จัดโชว์ผลงานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น วีดีโอ รูปภาพ เพลง ซึ่งผู้ให้บริการสังคมเครือข่ายประเภทนี้ เช่น  YouTube,  Multiply,  Flickr  เป็นต้น
         


       3. Interested  Network  (การมีความสนใจตรงกัน) เป็นสังคมเครือข่าย ที่ทำหน้าที่เก็บในสิ่งที่              ชอบไว้บนเครือข่าย โดยเป็นการสร้าง Online Bookmarking โดยมีแนวคิดที่ว่า แทนที่ผู้ใช้จะ               เก็บ Bookmark ไว้ในเครื่องคนเดียว ก็นำมาเก็บไว้บน Website ดีกว่า เพื่อที่จะได้เป็นการแบ่ง             ปันให้กับคนที่มีความชอบในเรื่องเดียวกัน สามารถใช้เป็นแหล่งอ้างอิงในการเข้าไปหาข้อมูลได้             และนอกจากนี้ ยังสามารถ Vote เพื่อให้คะแนนกับ Bookmark ที่ผู้ใช้คิดว่ามีประโยชน์และเป็นที่           นิยม ซึ่งผู้ให้บริการสังคมเครือข่ายประเภทนี้ เช่น  Zickr,  del.icio.us,  Bigg  เป็นต้น




    4. Collaboration  Network  (การทำงานร่วมกัน) เป็นสังคมเครือข่าย ที่ต้องการความคิด ความรู้ และการต่อยอดจากผู้ใช้ที่เป็นผู้รู้ เพื่อให้ความรู้ที่ได้ออกมา มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเกิดการพัฒนาในที่สุด ซึ่งหากลองมองจากแรงจูงใจที่เกิดขึ้นแล้ว คนที่เข้ามาในสังคมนี้ มักจะเป็นคนที่มีความภูมิใจ ที่ได้เผยแพร่สิ่งที่ตนเองรู้ และทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งผู้ให้บริการสังคมเครือข่ายประเภทนี้ เช่น  WikiPedia  เป็นสารานุกรมต่อยอด  ที่อนุญาตให้ช่วยกันเขียน  Google    
    

การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อการศึกษา




ความหมาย  "เครือข่ายสังคมออนไลน์"

                       แนวคิดเรื่อง (Social Network) หรือ เครือข่ายสังคมออนไลน์ มักปรากฎให้เห็นในลักษณะของการนำมาใช้เพื่อดำเนินงานหรือกิจกรรมต่างๆ โดยมีตัวบุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันเป็นเครือข่าย เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกัน แลกเปลี่ยนแบ่งปันทรัพยากร ข้อมูลข่าวสาร ฯลฯ แต่ปัจจุบันคำว่า (Social Network) จะหมายถึงระบบเครือข่ายบนโลกออนไลน์ หรือการติดต่อสื่อสารถึงกันผ่านอินเทอร์เน็ตนั่งเอง Wikipedia (2009) ให้ความหมาย(Social Network) ว่า เป็นโครงสร้างสังคมที่ประกอบด้วยโหนด (Node) ต่างๆ เชื่อมต่อกัน ซึ่งแต่ละโหนดที่เชื่อมโยงกันก็อาจมีความสัมพันธ์กับโหนดอื่นๆ ด้วย โดยอาจมีระดับของความสัมพันธ์กัน มีความซับซ้อน มีเป้าหมาย
                        (Social Network) จึงหมายถึงการที่มนุษย์สามารถเชื่อมโยงถึงกัน ทำความรู้จักกัน สื่อสารถึงกันได้ ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเป็นเว็บไซต์ที่เรียกว่าเป็นเว็บ (Social Network) ก็คือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกันนั่งเอง โดยเว็บไซต์เหล่านี้จะมีพื้นที่ให้ผู้คนเข้ามารู้จักกัน มีการให้พื้นที่ บริการเครื่องมือต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างเครือข่าย สร้างเนื้อหาตามความสนใจของผู้ใช้ ปัจจุบันมีเว็บไซต์ประเภท (Social Network) เกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งที่มีเป้าหมายเชิงพาณิชย์ และไม่แสวงหากำไร เช่น Wikipedia โดย 10 อันดับเว็บไซต์ (Social Network) ยอดนิยม คือ mySpace.com, faceBook.com, orkut.com, hi5.com, vkontakte.ru, Friendster.com, SkyRock.com, PerfSpot.com, bebo.com และ studivz.net (พฤษภาคม 2551)
                นอกจะใช้ในการติดต่อสื่อสารเพื่อความสนุก เพลิดเพลิน บันเทิงแล้วเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นำมาใช้เพื่อการศึกษาได้

การประยุกต์ใช้งาน Facebook เพื่อการเรียนการสอน

 



การใช้เฟซบุ๊ก เป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
     เฟซบุ๊กเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ที่ยังคงเฟื่องฟูและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจึงส่งผลให้สถานศึกษาต่างๆ นำ     เฟซบุ๊กไปประยุกต์ใช้เป็นศูนย์แห่งการ   เรียนรู้ในสถานศึกษาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแบ่งปันข้อมูลด้านวิชาการในการเรียนการสอนรวมถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างครูผู้สอนกับครูผู้สอน ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน และผู้เรียนกับผู้เรียน
              จากการค้น เฟซบุ๊กเพื่อการศึกษา (Facebook for Education)”ในกูเกิลจะพบแหล่งข้อมูล 922 ล้านรายการ และจากการค้นศูนย์แห่งการเรียนรู้บนเฟซบุ๊ก (Learning Center on Facebook)”ในกูเกิลจะพบแหล่งข้อมูล 173 ล้านรายการ จะเห็นได้ว่ามีการนำเฟซบุ๊กไปประยุกต์ใช้เพื่อการศึกษาและเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ในสาขาวิชาต่างๆ มากมาย ยิ่งกว่าไปนั้น เฟซบุ๊กได้เป็นสื่อสังคมยอดนิยมสำหรับครูผู้สอน ซึ่งเมื่อเมษายน 2554 “เพียร์สัน (Pearson)”ได้รายงานผลสำรวจการใช้สื่อสังคมของครูผู้สอนในระดับอุดมศึกษาประมาณ 2,000 แห่ง จากบล็อก เอ็ดดูเดมิก (edudemic.com)”สรุปได้ว่า ครูผู้สอนร้อยละ 57 นิยมใช้เฟซบุ๊กในด้านส่วนตัวและครูผู้สอน      ร้อยละ 30 ใช้เฟซบุ๊กในด้านวิชาชีพ
       เว็บ พีซีเทคแม็กกาซีน (www.pctechmagazine.com)”ได้อ้างถึงเหตุผล 4 ประการที่ครูผู้สอนควรพิจารณาเลือกใช้เฟซ บุ๊กเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา 
1.  การพัฒนาด้านภาษาซึ่งครูผู้สอนและผู้เรียนจำเป็นต้องใช้เฟซบุ๊กในการติดต่อสื่อสารและแสดงความเห็นต่างๆ เกี่ยวกับวิชาที่เรียนบนเฟซบุ๊ก ทั้งนี้ การใช้ เฟซบุ๊กเป็นประจำในการเขียนและอ่านข้อความต่างๆ จะช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกการเขียน การสะกดคำ และการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้อง
2. การสื่อสารระหว่างบุคคลซึ่งเป็นสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูผู้สอนกับครูผู้สอน ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน และผู้เรียนกับผู้เรียนในการติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน รวมถึงสนับสนุนให้ผู้เรียนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากยิ่งขึ้น
 3. การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มซึ่งเฟซบุ๊กเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนผู้ใดผู้หนึ่งจะต้องรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายร่วมกับผู้เรียนผู้อื่นเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นการฝึกทักษะการเป็นผู้นำและการเป็นผู้ตาม
4. เพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
       ซึ่งการใช้เฟซบุ๊กในการเรียนการสอน จะช่วยผู้เรียนมีความสนใจและมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ๆ

       
ข้อดีของการใช้เฟซบุ๊กเพื่อการเรียนการสอน

  1.สื่อสารถึงนักศึกษาได้อย่างรวดเร็วกว่าการใช้อีเมลล์หรืออีเลิร์นนิ่ง

  2.ส่งเสริมการกระตุ้นให้นักศึกษาได้แบ่งปันความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว 
  
  3.นักศึกษามีความสะดวกในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร

ข้อเสียของการใช้เฟซบุ๊กเพื่อการเรียนการสอน

 1. อาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้

 2. อาจารย์หรือนักศึกษาไม่เป็นส่วนตัวในการข้อความหรือรูปภาพต่างๆ

การประยุกต์ใช้งาน Twitter เพื่อการเรียนการสอน


 

ทวิตเตอร์ (Twitter) เป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จำพวกไมโครบล็อก โดยผู้ใช้สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ หรือ ทวีต (tweet - เสียงนกร้อง) ทวิตเตอร์ก่อตั้งขึ้นโดย แจ็ก คอร์ซีย์ ,บิซ สโตน และ อีวาน วิลเลียมส์ เจ้าของบริษัท Obvious Corp ที่ซานฟรานซิสโกสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2006
ข้อความอัปเดตที่ส่งเข้าไปยังทวิตเตอร์จะแสดงอยู่บนเว็บเพจของผู้ใช้คนนั้นบนเว็บไซต์ และผู้ใช้คนอื่นสามารถเลือกรับข้อความเหล่านี้ทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์,อีเมลเอสเอ็มเอสเมสเซนเจอร์ (IM), RSS, หรือผ่านโปรแกรมเฉพาะอย่าง Twitterific Twhirl ปัจจุบันทวิตเตอร์มีหมายเลขโทรศัพท์สำหรับส่งเอสเอ็มเอสในสามประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักร
ความสำเร็จของทวิตเตอร์ส่งผลให้มีบริการคล้ายคลึงกันออกมาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันประเทศไทยเองก็มีบริการลักษณะนี้เช่นกัน นั่นคือ Noknok และKapook OnAir เว็บไซต์แห่งหนึ่งถึงกับรวบรวมบริการแบบเดียวกับ ทวิตเตอร์ได้ถึง 111 แห่ง
ตัวระบบซอฟต์แวร์ของทวิตเตอร์ เดิมพัฒนาด้วย Ruby on Rails[3] จนเมื่อราวสิ้นปี ค.ศ. 2008 จึงได้เปลี่ยนมาใช้ภาษา Scala บนแพลตฟอร์มจาวา ค.ศ. 2009 ทวิตเตอร์ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างมาก จนนิตยสารไทม์ ฉบับวันที่ 15 มิ.ย. 2009 ได้นำเอาทวิตเตอร์ขึ้นปก เป็นเรื่องเด่นประจำฉบับ และบทบรรณาธิการกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงการนำเสนอข่าว ที่มีที่มาจากเทคโนโลยีใหม่อย่างทวิตเตอร์

ทวิตเตอร์กับการเรียนการสอน

                จากการจัดอันดับของเครื่องมือสารสนเทศที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการเรียนการสอนพบว่าทวิตเตอร์เป็นเครื่องมืออันดับหนึ่งในปีพ.ศ. 2552 ด้วยเหตุผลดังนี้
ทวิตเตอร์ทำให้ข่าวสารและข้อมูลแพร่กระจายไปสู่คนหมู่มากได้อย่างรวดเร็ว
ทวิตเตอร์ช่วยทำให้ ทั้งให้และรับได้อย่างรวดเร็วรวมทั้งสามารถแลกเปลี่ยนการสนทนาความคิดกับผู้อื่นที่มีความสนใจได้ดี
ข้อความในทวิตเตอร์สั้นทำให้ได้รับข้อมูลที่ไม่ยาวเกินความจำเป็น
มีแอพที่ทำให้การเข้าถึงทวิตเตอร์และการเผยแพร่ข้อมูลที่ทวิตเตอร์ง่าย เช่น Google Chrome, Firefox ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำให้หัวข้อฟีดไปแสดงที่บัญชีทวิเตอร์โดยอัตโนมัติ

ข้อดีของทวิตเตอร์

1.สามารถใช้ได้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนเพื่อการสื่อสารถึงกิจกรรมการเรียนการสอน

2.สามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับระดมความคิดเห็นและการสื่อสาร

3.สามารถเป็นช่องทางสำหรับฟังความคิดเห็น โดยนักเรียนสามารถส่งคำถาม ความคิดเห็น หรือข้อสังเกตเข้าไปเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้ร่วมกันได้

4.สามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการทำงานร่วมกันระหว่างโรงเรียน มหาลัย ประเทศที่ห่างกันได้

5.สามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการประชุม สัมมนา การนำเสนอความคิดจากคนหมู่มาก ที่สามารถอัพเดทข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

6.สามารถใช้เป็นห้องเรียนเสมือนสำหรับการอภิปรายแสดงออกทางความคิด

7.สามารถใช้เป็นเครื่องมือสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ทางเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือการคันพบแหล่งความรู้ใหม่ๆ

8.สามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับสะท้อนความคิดเห็นของผู้เรียนและผู้สอน

ข้อเสียของทวิตเตอร์

1.เป็นแอพที่ต้องใช้เวลาพอสมควรในการอ่านข้อมูลข่าวสารในกรณีที่มีผู้อยู่ในเครือข่ายมาก

2.ข้อมูลที่ปรากฏในระบบจะถูกทับด้วยข้อมูลใหม่อย่างรวดเร็วและคงอยู่ในระบบในระยะเวลาจำกัดประมาณ 15 วัน

3.ผู้เรียนอาจไม่สนใจในเนื้อหาที่ผู้สอนมอบให้โดยการใช้ทวิตเตอร์เพื่อการแชทระหว่างเพื่อนในชั้นเรียน

4.หากไม่จัดสรรเวลา ผู้เรียนอาจมีการเสพติดเทคโนโลยีได้

5.ผู้เรียนอาจไปก้าวก่ายในชีวิตส่วนตัวของผู้สอนได้โดยการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมเข้าไปในระบบ
6.อาจถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างข่าวลือ

7.บางครั้งข้อจำกัด 140 อักขระ นำไปสู่การสื่อสารด้านการเขียนที่ผิดไวยากรณ์

8.อาจเป็นแหล่งที่มาของการสิ้นเปลืองค่าใช่จ่ายในการซื้อคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การสื่อสาร และค่าบริการอินเตอร์เน็ต

การประยุกต์ใช้งาน Youtube เพื่อการเรียนการสอน
  


     youtube เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนภาพวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรี โดยนำเทคโนโลยีของ Adobe Flash มาใช้ในการแสดงภาพวิดีโอ ซึ่งยูทูบมีนโนบายไม่ให้อัปโหลดคลิปที่มีภาพโป๊เปลือยและคลิปที่มีลิขสิทธิ์ นอกเสียจากเจ้าของลิขสิทธิ์ได้อัปโหลดเอง
     เมื่อสมัครสมาชิกแล้วผู้ ใช้จะสามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป แบ่งปันภาพวิดีโอให้คนอื่นดูด้วย แต่หากไม่ได้สมัครสมาชิกก็สามารถเข้าไปเปิดดูภาพวิดีโอที่ผู้ใช้คนอื่น ๆ ใส่ไว้ใน Youtube ได้  แม้จะก่อตั้งได้เพียงไม่นาน (youtube ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005) Youtube เติบโตอย่างรวดเร็วมาก เป็นที่รู้จักันแพร่หลายและได้รับความนิยมทั่วโลก ต่อมาปี ค.ศ.2006 กูเกิ้ลซื้อยูทูบ ตอนนี้ยูทูบจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิ้ลแล้ว
    แต่ด้วยตัวยูทูบเองที่มีเนื้อหามากมายเป็นแสนชิ้น ทั้งสื่อและเครื่องมือการเรียนรู้ดีๆที่สามารถใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสื่อประเภทที่สุ่มเสี่ยง และทำให้เด็กและเยาวชนไขว้เขวไปได้ ทั้งจากมิวสิควีดีโอ การ์ตูน และไม่ได้ใช้เป็นช่องทางเพื่อการเรียนรู้สักทีเดียว จึงเป็นที่มาของการเปิดหน้าการศึกษาล่าสุดเของยูทูบขึ้น  ที่เรียกว่า ยูทูบสำหรับโรงเรียน” หรือ (Youtube for Schools) เป็นช่องทางการเรียนรู้ที่จัดตั้งขึ้น โดยจะมีเนื้อแต่เรื่องการศึกษาแต่เพียงอย่างเดียว โดยได้ร่วมมือกับภาคีด้านการศึกษากว่า 600 แห่ง เช่น TED , Smithsonian  เว็บไซด์ชื่อดังเรื่องที่ได้รวบรวมแหล่งเรียนรู้และนิทรรศการต่างๆเอาไว้,Steve Spangler แหล่งผลิตเกมส์และของเล่นเพื่อการพัฒนาทักษะด้านวิทยาศาสตร์ หรือ Numberphile  ที่สอนคณิตศาสตร์ออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ยูทูบได้ทำงานร่วมกับครูในการจัดแบ่งเนื้อหากว่า 300  ชิ้น ออกเป็นรายวิชา และระดับชั้น โดยสื่อเหล่านี้ยูทูบเชื่อว่าจะช่วยเสริมการเรียนรู้ในห้องเรียนได้เป็นอย่างดี ทำให้ห้องเรียนสนุกสนานขึ้น และเด็กๆก็จะตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้น

 YouTube สำหรับโรงเรียน

             ประโยชน์ของ YouTube สำหรับโรงเรียน(Youtube for Schools)

1. กว้างขวางครอบคลุม

YouTube สำหรับโรงเรียนเปิดโอกาสให้โรงเรียนต่างๆ เข้าถึงวิดีโอเพื่อการศึกษาฟรีนับแสนรายการจาก YouTube EDU วิดีโอเหล่านี้มาจากองค์กรที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น Stanford, PBS และ TED รวมทั้งจากพันธมิตรที่กำลังได้รับความนิยมของ YouTube ซึ่งมียอดผู้ชมนับล้านๆ คน เช่น Khan Academy, Steve Spangler Science และ Numberphile

2. ปรับแก้ได้
สามารถกำหนดค่าเนื้อหาที่ดูได้ในโรงเรียนของคุณ โรงเรียนทั้งหมดจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหา YouTube EDU ทั้งหมด แต่ครูและผู้ดูแลระบบอาจสร้างเพลย์ลิสต์วิดีโอที่ดูได้เฉพาะในเครือข่ายของโรงเรียนเท่านั้นได้เช่นกัน

3. เหมาะสมสำหรับโรงเรียน
ผู้บริหารโรงเรียนและครูสามารถลงชื่อเข้าใช้และดูวิดีโอใดๆ ก็ได้ แต่นักเรียนจะไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้และจะดูได้เฉพาะวิดีโอ YouTube EDU และวิดีโอที่โรงเรียนได้เพิ่มเข้าไปเท่านั้น ความคิดเห็นและวิดีโอที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะถูกปิดใช้งานและการค้นหาจะจำกัดเฉพาะวิดีโอ YouTube EDU เท่านั้น

4. เป็นมิตรกับครู
YouTube.com/Teachers มีเพลย์ลิสต์วิดีโอนับร้อยรายการที่ได้มาตรฐานการศึกษาทั่วไป และจัดระเบียบตามหัวเรื่องและระดับชั้น เพลย์ลิสต์เหล่านี้สร้างขึ้นโดยครูเพื่อเพื่อนครูด้วยกัน ดังนั้นคุณจึงมีเวลาในการสอนมากขึ้นและใช้เวลาค้นหาน้อยลง




แหล่งข้อมูลจาก
https://www.l3nr.org/posts/450304
http://phutthawan.blogspot.com/
http://1991sailom2.blogspot.com/
http://gear.kku.ac.th/~krunapon/research/pub/twitterforLearning.pdf